ปัจจุบันสารเคมีที่ใช้กำจัดปลวกในประเทศไทยมีหลากหลายชนิด แต่สามารถแบ่งออกออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่
1. กลุ่มออร์กาโนฟอสเฟต(Organophosphate) เป็นสารที่มีอันตรายต่อคน และสัตว์ รวมถึงมีพิษตกค้างในสิ่งแวดล้อมอีกด้วย สารเคมีในกลุ่มนี้ที่ใชในการกําจัดปลวก มี 2 ชนิดคือ Chlorpyrifos และ Fenobucarb ใช้เพื่อทําเป็นแนวป้องกันปลวกและสามารถฆ่าปลวกได้ทันทีเมื่อปลวกสัมผัสกับสาร
2. กลุ่มไพรีทรอยด์สังเคราะห์(Synthetic Pyrethroid) เดิมเป็นสารสกัดจากพืช ที่เคยนํามาใช้ในการกําจัดแมลง คือ Pyrethrin ซึ่งสกัดจากพืช แต่มีการสลายตัวเร็วจึงใช้กําจัดปลวกไม่ได้ ปัจจุบันจึงมีการสังเคราะห์สารชนิดนี้ขึ้นมาใหม่ให้มีความคงทนอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้ดีขึ้นจึงสามารถใช้กําจัดปลวกได้เรียกสารในกลุ้มนี้ว่า Pyrethroid สังเคราะห์ (Synthetic pyrethroids) ซึ่งมีกลิ่นอ่อน เป็นอันตรายสูงต่อสัตว์น้ำ เมื่อนํามาใช้กําจัดปลวกจะใช้เพื่อเป็นสารไล่ปลวก
ตัวอย่างของสารสังเคราะห์ในกลุ่มนี้ที่ใช้กําจัดปลวก มี 7 ชนิดคือ Cypermethrin, Permethrin , Alphacypermethrin, Bifenthrin, Deltamethrin Fenvalerate และ Lamdacyhalothrin
3. กลุ่มอื่นๆ(Other Groups) สารเคมีที่ใช้กําจัดปลวก สามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่มย่อยได้แก่
3.1 กลุ่มคลอโรนิโคตินิล(Chloronicuetinyl) เป็นสารเคมีที่ออกฤทธิ์ทําให็ระบบประสาทของแมลงผิดปกติ ตัวอย่างของสารในกลุ่มนี้ที่ใช้ในการกําจัดปลวก คือ Imidacloprid
3.2 กลุ่มเฟนนีลไพราโซล(Phenyl Pyrazole) เป็นสารเคมีที่มีผลกระตุ้นระบบประสาทและกล้ามเนื้อของปลวกให้ทํางานมากกว่าปกติมีทําให้เกิดการชักและตายได้ ตัวอย่างของสารในกลุ่มนี้ที่ใช้กําจัดปลวกคือ Fipronil
3.3 กลุ่มไซเลน (Silane) ได้แก่ Silafluofen
4. การใช้สารป้องกันรักษาเนื้อไม้ (Wood Preservative) มีคุณสมบัติเปนทั้งสารกําจัดแมลงและสารกําจัดเชื้อรา
5. การใช้สารสกัดจากพืช เช่น ใบยูคาลิปตัส ใบเสม็ด ใบหรือเมล็ดสะเดา ใบกะเพรา เป็นต้น สารสกัดจากพืชนั้นอาจใช้ในส่วนของน้ํามันหอมระเหย ซึ่งจะออกฤทธิ์เร็วแต่จะมีอายุการใช้งานสั้น หรืออาจใช้ในรูปแบบของสารสกัดในสารสะลายต่างๆ เช่น Petroleum Ether, Chloroform และ Ethyl Acetate เป็นต้น